ศาลเกาหลีใต้ตัดสินจำคุก แม่โหด เป็นระยะเวลา 7 ปี หลังลงมือ ตีลูก ถึง 2,000 ครั้ง นาน 2 ชั่วโมงครึ่ง จนทำให้ลูกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าว เดอะ โคเรีย เฮรัลด์ ได้รายงานโดยอ้างจากสำนักข่าว ยอนฮัป ว่า ศาลสูงสุดในประเทศเกาหลีใต้ ได้ยืนยันคำพิพากษาจำคุกหญิงวัย 64 เป็นระยะเวลา 7 ปี หลังจากที่เธอตีลูกด้วยแท่งไม้ไผ่จนลูกเสียชีวิต เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2563
โดยจากกล้องวงจรปิดในวันซึ่งเป็นที่เกิดเหตุสามารถบันทึงวินาทีที่แม่ตีลูกวัย 35 ปี
และใช้เท้าถีบรวมกันกว่าสองพันครั้งเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยจากการหวดลูกครั้งนี้ ทำให้ลูกชายเสียชีวิตจากอาการช็อกเนื่องจากภาวะเลือดคลั่งใต้ผิวหนัง เบื้องต้นเชื่อว่าหญิงคนนี้ลงมือก่อเหตุ หลังจากที่ลูกชายได้บอกว่าเขาพบปัญหาภายในวัด ทั้งนี้ไม่ได้มีการระบุเจาะจงว่าปัญหาที่ว่าคืออะไร
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ทางศาลได้ยกฟ้องข้อหาฆาตกรรมเนื่องจากผู้เป็นแม่ไม่ทราบว่าการทำร้ายร่างกายจะนำไปสู่ความตายของลูกชาย
เซเลนสกี ออกมาแถลงผ่านทางเฟซบุ๊กเปิดเผยว่าการ เจรจารัสเซีย ดูมีความเป็นไปได้มากขึ้น พร้อมยอมรับข้อตกลงไม่เข้าร่วม NATO แล้ว เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โวโลดิเมียร์ เซเรนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้กล่าวผ่านทางไลฟ์เฟซบุ๊ก ว่าด้วยสถานการณ์การเจรจากับทางการรัสเซีย โดยผู้นำยูเครนระบุว่าในขณะนี้ “ดูมีความเป็นไปได้” มากขึ้น แต่ยังคงต้องใช้เวลาในการหาข้อตกลงได้
นอกจากนี้ผู้นำยูเครนยังระบุว่า การที่ประเทศยูเครนจะชนะรัสเซียได้ ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจกันของชาวยูเครน รวมถึงทีมเจรจาที่ตอนนี้กำลังหารือกับตัวแทนจากรัสเซียอยู่ในขณะนี้ คาดว่าจะหารือเพิ่มเติมในวันพุธนี้
เบื้องต้นทางยูเครนยอมรับจ้อตกลงที่จะไม่เข้าร่วม องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ แล้ว ทั้งนี้ทางยูเครนยังไม่ตกลงที่จะยอมรับว่า รัฐโดเนกซ์ ลูฮันส์ เป็นรัฐอิสระ รวมถึงยอมรับพื้นที่ไครเมียเป็นของรัสเซีย
รัสเซีย ประกอนถอนตัวจาก สภายุโรป ส่งผลให้ทางรัสเซียสามารถกลับมาใช้มาตรการประหารชีวิต และ ประชาชนไม่สามารถร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชนต่อสภาได้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าว ฟร็องซ์24 รายงานว่า รัสเซียได้ประกาศถอนตัวจากสมาชิกสภายุโรป หรือ COE องค์กรส่งเสริมได้สิทธิมนุษยชน อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ประเทศรัสเซียต้องถูกกดดันอย่างหนักด้วยการระงับสถานภาพสมาชิก หลังรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่านมา
โดยการถอนตัวครั้งนี้จะส่งผลให้ทางรัสเซียสามารถกลับไปใช้โทษประหารชีวิตได้หากรัสเซียต้องการ และประชาชนในรัสเซียจะไม่สามารถร้องเรียนปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนต่อ สภาสิทธิมนุษยชนยุโรปได้
ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุว่า พวกเขาไม่เสียใจต่อการถอนตัว และยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน พร้อมระบุว่าทางรัสเซียยังคงใช้มติจากทางสภาสิทธิมนุษยชนยุโรป ตราบใดที่ไม่ขัดกับมาตรการรัสเซีย รัสเซียนับเป็นประเทศที่สองซึ่งลาออกจากหน่วยงานแห่งนี้ ต่อจากกรีซ เมื่อปี 2512
บก.หญิงชูป้าย ประท้วงสงครามรัสเซีย กลางทีวี ถูกสอบนาน 14 ชม.
จากกระแสข่าวโด่งดังจากที่ บรรณาธิการหญิง ชูป้าย ประท้วงสงครามรัสเซีย ล่าสุดเธอเปิดเผยว่าเธอถูกควบคุมตัวและสอบสวนนานถึง 14 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า มารีนา โอฟแซนนิโควา บรรณธิการหญิงที่ชูป้ายต่อต้านสงครามรัสเซียและเรียกร้องให้ประชาชนหยุดเชื่อโฆษณาชวนเชื่อจากทางการรัสเซีย กลางรายการข่าว จนกลายเป็นกระแสข่าวโด่งดังก่อนหน้านี้ ได้ออกมาเปิดเผยว่าเธอถูกตำรวจสอบนาน 14 ชั่วโมง
เธอกล่าวว่า ตำรวจได้สอบปากคำนาน 14 ชั่วโมงและไม่ได้นอนถึง 2 วัน พร้อมระบุอีกว่า เธอไม่สามารถเข้ารับการช่วยเหลือทางด้านกฎหมายได้นานหลายชั่วโมง
โดย โอฟแซนนิโควา ระบุว่าเบื้องต้นเธอถูกปรับเงินราวๆ 9 พันบาท จากการที่เธออัดวิดีโอระบุว่าเธอรู้สึกอับอายที่ต้องเป็นผู้เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อจากรัฐบาล ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยแน่ชัดว่า บรรณาธิการหญิงคนดังกล่าวจะถูกตั้งข้อหาอื่นๆจากการชูป้ายกลางรายการข่าวเพิ่มหรือไม่ โดยเฉพาะกฎหมายที่ว่าด้วยการเผยแพร่ “ข่าวปลอม”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ บรรณาธิการข่าวของสำนักข่าวจากช่อง ชาแนลวัน สถานีโทรทัศน์ในประเทศรัสเซียที่ชูป้ายต่อต้านสงคราม ในขณะที่ทางสถานีกำลังออกอากาศรายการข่าวเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
โดยข้อความระบุว่า “ไม่เอาสงคราม ยุติสงคราม อย่าเชื่อโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขากำลังโกหกคุณอยู่” พร้อมตะโกนเรียกร้องให้หยุดการสู้รบ ซึ่งหลังจากที่ข้อความดังกล่าวปรากฎบนหน้าจอได้ไม่นานทางสถานีก็ตัดภาพออกไป
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น